ดิน 4 ดี
คุณสมบัติ 4 อย่าง ที่ดี ของดิน ที่จำเป็นต้องมีได้แก่
1 พีเอช ดี หรือ ความเป็นกรดด่างอยู่ในช่วง 6.0-7.0
2 การระบายน้ำดี ไม่มี น้ำขัง
3 อินทรีย์วัตถุมากยิ่งดี คือ มีอย่างน้อยร้อยละ 10 ของดินทั้งหมด
4 มีจุลินทรีย์ดีๆ ที่เป็นประโยชน์มากมาย
1 พีเอช ดี หรือ ความเป็นกรดด่างอยู่ในช่วง 6.0-7.0 คือ ช่วงที่ดินสามารถนำธาตุอาหารไปใช้มากที่สุด โดยดินที่มี พีเอช มากกว่า 7 แสดงว่า เริ่มเป็นด่าง โดยพีเอชมาก ยิ่งเป็นด่างมาก ส่วนกรณี ดินเป็นกรด คือ พีเอชน้อยกว่า 7 โดยพีเอชยิ่งน้อย แสดงว่าเป็นกรดมาก การจะรู้ค่า พีเอชของดิน จำเป็นต้องมีเครื่องมือตรวจวัดซึ่งราคาไม่แพง คือ ราคาขั้นต่ำ อยู่ที่ 300 บาท เท่านั้น สำหรับดินที่พีเอชต่ำกว่า 5.5 แสดงว่ามีกรดมากไป ต้องใช้ปูนขาว หรือ โดโลไมท์เติมลงดินเพื่อแก้ไขความเป็นกรด กรณีที่ดินเป็นด่างมาก คือ พีเอชมากกว่า 7.5 ต้องเติมกรด โดยแนะนำให้ใช้กรดน้ำส้ม ในการปรับแก้ภาวะดินเป็นด่าง
2 การระบายน้ำดี ไม่มี น้ำขัง โดยปกติ ดินร่วน หรือ ดินทราย จะมีการระบายน้ำได้ดี แต่กรณี พื้นที่เป็นดินเหนียว จำเป็นต้องแก้ไข โดยการเติมทรายหยาบ เข้าไป ร้อยละ 20 และไถให้ดินเหนียว ผสมเข้ากับเนื้อรายหยาบ ก็จะสามารถแก้ดินไม่ระบายน้ำได้ นอกจากนี้ การยกร่องสูงเป็นเนิน(ยกร่องลูกฟู) ในการปลูก อย่างน้อย 50 เซนติเมตร จะช่วยทำให้มีการระบายน้ำดีมาก และไม่มีน้ำขังอีกด้วย
3 อินทรีย์วัตถุมากยิ่งดี คือ มีอย่างน้อยร้อยละ 10 ของดินทั้งหมด ปกติจะมีอยู่แล้วในดินที่สมบูรณ์ กรณีดินที่ส่งตรวจวิเคราะห์แล้วพบว่า อินทรีย์วัตถุต่ำ จำเป็นต้องใส่ ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือ ปุ๋ยพืชสด จากการปลูกปอเทืองลงไป ทำไม อินทรียฺ์วัตถุจึงสำคัญ เหตุผลก้คือ อินทรียืวัตถุให้ธาตุอาหารแก่พืช และ ยังช่วยดูดซับ ธาตุอาหารต่างๆ ให้สามารถสะสมอยู่ในดินได้นั่นเอง
4 มีจุลินทรีย์ดีๆ ที่เป็นประโยชน์มากมาย จะช่วยย่อยสลาย อินทรีย์วัตถุ ทำให้พืชดูดธาตุอาหารไปใช้ได้ หรือ อาจช่วยทำลายเชื้อก่อโรคที่อยู่ในดินได้ ทำให้โรครากเน่า โคนเน่าลดลง นอกจากนี้ เชื้อราบางชนิดกระตุ้น ภูมิคุ้มกันให้พืช เช่น ไตโคเดอร์ม่า เป็นต้น ดังนั้น เราจำเป็นต้องเติม จุลินทรีย์ดีๆ ลงในดินเป็นประจำทุกปี เพื่อช่วยกำจัดเชื้อโรคในดิน และ การดูดซึมะาตุอาหารนั่นเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น