คาราเต้ เป็น ชื่อการค้า ผลิตจำหน่าย โดย บริษัท ซินเจนตา
สารสำคัญ คือ แลมด้า ไซฮาโลทริน 2.5 % W/V
ออกฤทธิ์เร็ว หลายทาง ต่อแมลงปากกัดและปากดูด ประสิทธิภาพสูงในอัตราการใช้ต่ำ ยืดระยะการป้องกันแมลง ลดอันตรายจากความเป็นพิษต่อพืชและผู้ใช้ ผสมกับสารกำจัดศัตรูพืชอื่นได้ดี ทนฝน ทนแดด
กลุ่มสารเคมี คือ ไพรีทรอยด์ ขนาดใช้ คาราเต้ 25 ซีซี ต่อ น้ำ 20 ลิตร โดยออกฤทธิ์ ยับยั้งการทำงาน ระบบประสาทของหนอน แมลง ทำให้หนอนแมลง เป็นอัมพาต ได้
ยานี้ ถือ เป็นยาร้อน เข้าน้ำมัน ควรพ่นตอนเย็นเท่านั้น ไม่งั้น จะที่รอยคราบดำ ที่ผลมะนาวด้วย
ยานี้ ออกฤทธิ์กว้างขวาง เสื่อมสลาย ใน 7 วัน หลังพ่นยา จึงเก็บผลผลิตได้
เริ่มต้นธุรกิจเงินล้าน กับ การเป็นเกษตรกร สวนมะนาว สาระความรู้ ประสบการณ์ การปลูกมะนาว รีวิว ปุ๋ย ยาปราบศัตรพืช หนังสือที่เกี่ยวข้อง กับ มะนาว
วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2559
วันพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2559
ฟิโพรนิล Fipronil เจาะลึก ยาฆ่าแมลง ที่ผมชอบมาก
ฟิโพรนิล หรือ Fipronil ยาฆ่าแมลง ครอบจักรวาล
ฟิโพรนิล คือ ใช้กำจัด เพลี้ย หนอน มด ปลวก และ เห็บหมา หมัด ได้ครบในยาตัวเดียวยานี้ อยู่ในกลุ่ม phenylpyrazole ออกฤทธิ์ ต่อ ระบบประสาทส่วนกลางของหนอนแมลง
ยานี้ จะออกฤทธิ์ช้าๆ ในการ กำจัดเห็บหมา คือ ออกฤทธิ์ใน 48 ชั่วโมงเท่านั้น
ยานี้ จะออกฤทธิ์ เมื่อหนอนแมลง กิน ฟิโพลนิล หรือ สัมผัสถูกยา ฟิโพรนิลโดยตรง
ยานี้ จะเริ่มเสื่อมสลายไปเมื่อถูกดิน แสงแดดจัด ความร้อน และ ฝน พิษจะหายไปอย่างเร้ว
ชื่อสามัญ:
ฟิโพรนิล(fipronil) 5% W/V SC
ประเภทของยา :
น้ำ
คุณสมบัติพิเศษ :
เป็นยาเย็น
อัตราการใช้:
อัตรา 10-15 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นเมื่ป้องกันเพลียหรือแมลง
เมื่อพบเพลียหรือแมลงระบาดควรใช่ อัตรา 20-30 ซีซี. ผสมน้ำ 20 ลิตร
ควรศึกษารายละเอียดการใช้จากฉลากเพิ่มเติมก่อนใช้
พืชที่ใช้:
มะม่วง มะปราง ลำใย ลองกรอง ส้ม
มะเขือเทศ พริกไทย แตงกวา ข้าว
กล้วยไม้ กะหล่ำ
ไม้ดอกไม้ประดับทั่วไป
ความสามรถในการกำจัดได้:
เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไฟ เพลี้ยหอย แมลงวันทอง
เพลี้ยแป้ง เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล มดแดง
เพลี้ยจักจั่น แมลงหวีขาว ปลวก
วิธีใช้:
ผสมน้ำกวนให้เข้ากันดีฉีดพ่นให้ทั่วต้นพืชหรือต้นผลไม้
ควรศึกษารายละเอียดการใช้จากฉลากเพิ่มเติมก่อนใช้
การออกฤทธิ์:
น็อต+ดูดซึม
ทางสัมผัส กินตาย ถูกตัวตาย
ข้อควรรู้ :
เป็นอันตรายต่อผึ้ง ในช่วงการออกดอก
เป็นอันตรายต่อปลาในนาข้าว
เป็นอันตรายต่อนก
วันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2559
พ่น แต่ อะบาเม็กติน อย่างเดียว เป็น เรื่องสิ้นคิดมาก
ไม่ว่าจะเป็นพืชใด อาทิเช่น มะนาว ส้ม มะกรูด หรือ ไม้ผลอื่นๆ อย่าใช้ ยาฆ่าแมลงเพียงชนิดเดียว
ดังนั้น การ ใช้ แค่ อะบาเม็กติน เพียงตัวเดียว เป็นเรื่องที่ โง่เง่าที่สุด เนื่องจาก เหตุผลต่อไปนี้
ดังนั้น การ ใช้ แค่ อะบาเม็กติน เพียงตัวเดียว เป็นเรื่องที่ โง่เง่าที่สุด เนื่องจาก เหตุผลต่อไปนี้
- อะบาเม็กติน ไม่สามารถ ฆ่า หนอนแมลงได้ ทุกชนิด มี แมลงหลายชนิด ที่ ฆ่าไม่ได้ ต้องใช้ยาอื่น
- การใช้ อะบาเม็กติน ซ้ำซาก บ่อยๆ หนอนแมลงจะเดื้อยาได้
- การให้ อะบาเม็กติน ตอนมะนาว หรือ ส้ม ติด ผล ช่วงอากาศร้อน จะทำให้เกิดคราบดำบนผลได้
ยาฆ่าแมลงตัวอื่นๆ ที่แนะนำ ใช้สลับกัน ได้แก่ อิมิดาโคลพริด เซพวิน 85 และ ฟิโพนิล
วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2559
เคล็ดลับการปลูกมะนาว ขั้นเทพ
ในการปลูกมะนาว เพื่อที่จะลดต้นทุน และ เพิ่มผลผลิตจำเป็นต้องปลูกลงดิน
และยกร่องลูกฟูกสูง 2 ฟุต เพื่อช่วยการระบายน้ำให้มะนาว จำเป็นมาก
การเตรียมหลุมปลูกมะนาวควรทำดังนี้
1 ส่งตรวจวิเคราะห์ดินก่อนปลูกมะนาว (หากทำได้)
หรือ ตรวจ pH กรดด่างของดิน ปรับให้ได้ 6.0-7.0
2 เติมปุ๋ยคอกเก่า หรือ ปุ๋ยหมักเก่าๆ ที่ก้นหลุ่มประมาณ ครึ่งกิโลกรัม
3 ขุดหลุมมะนาวลึก 10 - 15 cm แล้วกว้าง ประมาณ 20-25 cm
4 เตรียมไม้หลัก ขนาด 50 cm และ เชือกฟาง
5 เตรียมยาผง สตาร์เกิ้ลจี เพื่อป้องกันหนอนแมลง ต้นละ 1 ช้อนชา
6 ตากหลุมให้โดนแดด 3 วัน
7 ราด เชื้อ Killer B ที่หมักแล้ว ผสมดินปลูก ในวันที่ปลูก
8 หากเป็นไปได้ควรปลูกมะนาวตอนเย็น
9 เตรียมระบบน้ำในสวนมะนาว
และยกร่องลูกฟูกสูง 2 ฟุต เพื่อช่วยการระบายน้ำให้มะนาว จำเป็นมาก
การเตรียมหลุมปลูกมะนาวควรทำดังนี้
1 ส่งตรวจวิเคราะห์ดินก่อนปลูกมะนาว (หากทำได้)
หรือ ตรวจ pH กรดด่างของดิน ปรับให้ได้ 6.0-7.0
2 เติมปุ๋ยคอกเก่า หรือ ปุ๋ยหมักเก่าๆ ที่ก้นหลุ่มประมาณ ครึ่งกิโลกรัม
3 ขุดหลุมมะนาวลึก 10 - 15 cm แล้วกว้าง ประมาณ 20-25 cm
4 เตรียมไม้หลัก ขนาด 50 cm และ เชือกฟาง
5 เตรียมยาผง สตาร์เกิ้ลจี เพื่อป้องกันหนอนแมลง ต้นละ 1 ช้อนชา
6 ตากหลุมให้โดนแดด 3 วัน
7 ราด เชื้อ Killer B ที่หมักแล้ว ผสมดินปลูก ในวันที่ปลูก
8 หากเป็นไปได้ควรปลูกมะนาวตอนเย็น
9 เตรียมระบบน้ำในสวนมะนาว
10 รดน้ำมะนาว ทุกวัน จนแตกใบอ่่อน
11 รักษยอดอ่อน สูตร 1 4 8 อ่านคลิก สูตร 1-4-8
12 ให้ปุ๋ยโยกหน้า ทุก 7 วัน คลิกอ่านปุ๋ยโยกหน้า
ดิน 4 ดี สำหรับไม้ผลทั่วไป
ดิน 4 ดี
คุณสมบัติ 4 อย่าง ที่ดี ของดิน ที่จำเป็นต้องมีได้แก่
1 พีเอช ดี หรือ ความเป็นกรดด่างอยู่ในช่วง 6.0-7.0
2 การระบายน้ำดี ไม่มี น้ำขัง
3 อินทรีย์วัตถุมากยิ่งดี คือ มีอย่างน้อยร้อยละ 10 ของดินทั้งหมด
4 มีจุลินทรีย์ดีๆ ที่เป็นประโยชน์มากมาย
1 พีเอช ดี หรือ ความเป็นกรดด่างอยู่ในช่วง 6.0-7.0 คือ ช่วงที่ดินสามารถนำธาตุอาหารไปใช้มากที่สุด โดยดินที่มี พีเอช มากกว่า 7 แสดงว่า เริ่มเป็นด่าง โดยพีเอชมาก ยิ่งเป็นด่างมาก ส่วนกรณี ดินเป็นกรด คือ พีเอชน้อยกว่า 7 โดยพีเอชยิ่งน้อย แสดงว่าเป็นกรดมาก การจะรู้ค่า พีเอชของดิน จำเป็นต้องมีเครื่องมือตรวจวัดซึ่งราคาไม่แพง คือ ราคาขั้นต่ำ อยู่ที่ 300 บาท เท่านั้น สำหรับดินที่พีเอชต่ำกว่า 5.5 แสดงว่ามีกรดมากไป ต้องใช้ปูนขาว หรือ โดโลไมท์เติมลงดินเพื่อแก้ไขความเป็นกรด กรณีที่ดินเป็นด่างมาก คือ พีเอชมากกว่า 7.5 ต้องเติมกรด โดยแนะนำให้ใช้กรดน้ำส้ม ในการปรับแก้ภาวะดินเป็นด่าง
2 การระบายน้ำดี ไม่มี น้ำขัง โดยปกติ ดินร่วน หรือ ดินทราย จะมีการระบายน้ำได้ดี แต่กรณี พื้นที่เป็นดินเหนียว จำเป็นต้องแก้ไข โดยการเติมทรายหยาบ เข้าไป ร้อยละ 20 และไถให้ดินเหนียว ผสมเข้ากับเนื้อรายหยาบ ก็จะสามารถแก้ดินไม่ระบายน้ำได้ นอกจากนี้ การยกร่องสูงเป็นเนิน(ยกร่องลูกฟู) ในการปลูก อย่างน้อย 50 เซนติเมตร จะช่วยทำให้มีการระบายน้ำดีมาก และไม่มีน้ำขังอีกด้วย
3 อินทรีย์วัตถุมากยิ่งดี คือ มีอย่างน้อยร้อยละ 10 ของดินทั้งหมด ปกติจะมีอยู่แล้วในดินที่สมบูรณ์ กรณีดินที่ส่งตรวจวิเคราะห์แล้วพบว่า อินทรีย์วัตถุต่ำ จำเป็นต้องใส่ ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือ ปุ๋ยพืชสด จากการปลูกปอเทืองลงไป ทำไม อินทรียฺ์วัตถุจึงสำคัญ เหตุผลก้คือ อินทรียืวัตถุให้ธาตุอาหารแก่พืช และ ยังช่วยดูดซับ ธาตุอาหารต่างๆ ให้สามารถสะสมอยู่ในดินได้นั่นเอง
4 มีจุลินทรีย์ดีๆ ที่เป็นประโยชน์มากมาย จะช่วยย่อยสลาย อินทรีย์วัตถุ ทำให้พืชดูดธาตุอาหารไปใช้ได้ หรือ อาจช่วยทำลายเชื้อก่อโรคที่อยู่ในดินได้ ทำให้โรครากเน่า โคนเน่าลดลง นอกจากนี้ เชื้อราบางชนิดกระตุ้น ภูมิคุ้มกันให้พืช เช่น ไตโคเดอร์ม่า เป็นต้น ดังนั้น เราจำเป็นต้องเติม จุลินทรีย์ดีๆ ลงในดินเป็นประจำทุกปี เพื่อช่วยกำจัดเชื้อโรคในดิน และ การดูดซึมะาตุอาหารนั่นเอง
วันอังคารที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2559
แนวโน้ม ราคามะนาว 4 ปี มีแววราคาลดลง ไม่ฟันธง
4 ปี ย้อนหลัง แนวโน้มราคามมะนาวลดลงชัดเจน แต่ไม่มากเท่าข้าว หรือ ยางพารา
แต่สัญญาณราคาลดลง โดยเฉพาะ ราคมะนาวนอกฤดู ไม่แพงมากเหมือน แต่ก่อน
ราคาเฉลี่ย ปี 2556 = 355.15 ปี 2557 = 383.00 บาท
ราคาเฉลี่ย ปี 2558= 312.05 ปี 2559 = 303.77 บาท
(ทางสถิติราคาปี 58 VS ปี 59 ไม่แตกต่างกัน แต่ราคา ปี 57 สูงกว่าปกติมาก )
สรุป ราคามะนาวทั้งปีมีแนวโน้มลดลง แต่ สัญญาณ ยังไม่ชัดเจน อาจตีกลับได้ ส่วน ราคามะนาว นอกฤดู มีนา เมษา พฤษภา ราคาลดลงชัดเจนแน่ ๆ
ปล.ผมเตรียมรับมือไว้นานแล้ว
***ราคา มะนาวผลขนาดกลาง อ้างอิง ราคาตลาดสี่มุมเมือง***
การรับมือ
1 ขาย สอง ช่วง นอกฤดู 60 %
2 ขายในฤดู กุมภา หรือ มิย
3 ผ่าน GAP
4 ขายตรง กับ แม่ค้ารายย่อย หรือ ร้านอาหาร
5 โปรโมทสวนให้มีชื่อเสียงในจังหวัด
6 ขยายตลาดไป มะกรูด หรือ ส้มโอ
แต่สัญญาณราคาลดลง โดยเฉพาะ ราคมะนาวนอกฤดู ไม่แพงมากเหมือน แต่ก่อน
ราคาเฉลี่ย ปี 2556 = 355.15 ปี 2557 = 383.00 บาท
ราคาเฉลี่ย ปี 2558= 312.05 ปี 2559 = 303.77 บาท
(ทางสถิติราคาปี 58 VS ปี 59 ไม่แตกต่างกัน แต่ราคา ปี 57 สูงกว่าปกติมาก )
สามารถ คลิกที่ภาพ เพื่อขยายได้
สรุป ราคามะนาวทั้งปีมีแนวโน้มลดลง แต่ สัญญาณ ยังไม่ชัดเจน อาจตีกลับได้ ส่วน ราคามะนาว นอกฤดู มีนา เมษา พฤษภา ราคาลดลงชัดเจนแน่ ๆ
ปล.ผมเตรียมรับมือไว้นานแล้ว
***ราคา มะนาวผลขนาดกลาง อ้างอิง ราคาตลาดสี่มุมเมือง***
การรับมือ
1 ขาย สอง ช่วง นอกฤดู 60 %
2 ขายในฤดู กุมภา หรือ มิย
3 ผ่าน GAP
4 ขายตรง กับ แม่ค้ารายย่อย หรือ ร้านอาหาร
5 โปรโมทสวนให้มีชื่อเสียงในจังหวัด
6 ขยายตลาดไป มะกรูด หรือ ส้มโอ
วันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2559
เจาะลึก ปุ๋ยโยกหน้า ในมะนาว คือ ปุ๋ยที่สำคัญที่สุด
ปุ๋ยโยกหน้า สำคัญที่สุด
มะนาวหากไม่ทำนอกฤดู ปุ๋ยที่ใช้มีสูตรเดียว คือ ปุ๋ยโยกหน้า
ปุ๋ยโยกหน้ามีทั้งชนิด ปุ๋ยให้ทางดิน หรือปุ๋ยเกล็ด ฉีดพ่นให้ทางใบ
โดยปุ๋ยที่เราให้ทางดิน ที่ถือ ว่า คือ ปุ๋ยโยกหน้า
สูตร 21-7-14
สูตร 21-7-18
มีมากมาย หลายยี่ห้อ เช่น ปุ๋ยยาร่า หัววัวคันไถ เป็นต้น
หลักการคือ มี N มากที่สุด และ K รองลงมา ส่วน P มี น้อยๆ ก็พอ
โดย ธาตุ N มีหน้าที่บำรุงกิ่ง ก้านใบ
ส่วน P มี หน้าที่ให้พลังงานแก่เซลพืช
และ K มีหน้าที่ ทำให้กิ่งแข็งแรง และ การลำเลียงน้ำตาล
กรณี ปุ่ยทางใบ สูตร ดยกหน้า จะให้อยู่ 2 สูตร คือ
ปุ๋ย ตรานกเงือกเขียว
ปุ๋ย โซตัส นูแทค ไฮเอ็น
โดยปุ๋ยนกเงือกเขียว 50 กรัม น้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่น ทุก 7-14 วัน
ส่วน ปุ๋ย โซตัส นูแทค ไฮเอ็น 35 กรัม ต่อ น้ำ 20 ลิตร แีดพ่น ทุก 14-21 วัน
เพื่อความปลอดภัยแก่พืช ควรให้ปุ๋ยทางใบตอนเย็น เท่านั้น
โดยเฉพาะ หากมีแดดร้อน จำเป็นต้องให้ ปุ่ยตอนเย็น
หน้าที่ของปุ๋ยโยกหน้่าสรุป
1 เร่งใบให้แตก ใบใหญ่ และ การเติบโต
2 ขยายขนาดผลมะนาว ให้ใหญ่มากขึ้น
วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2559
เจาะลึกยาฆ่าแมลง 3 อิมิดาคลอพริด
อิมิดาคลอพริด เป็นยากลุ่มใหม่ จัดอยู่ในกลุ่ม นีโอนิโคทินอยด์ ออกฤทธิ์คล้ายใบยาสูบ
อิมิดาคลอพริด มีความปลอดภัยสูง เพราะสลายตัวเร็ว ให้ น้ำ + คาร์บอนไดออกไซต์
อิมิดาคลอพริด มีทั้งแบบผง หรือ น้ำ และ มีหลายความแรงให้เลือก มากมายหลายยี่ห้อ
อิมิดาคลอพริด มีความปลอดภัยสูง เพราะสลายตัวเร็ว ให้ น้ำ + คาร์บอนไดออกไซต์
อิมิดาคลอพริด มีทั้งแบบผง หรือ น้ำ และ มีหลายความแรงให้เลือก มากมายหลายยี่ห้อ
อิมิดาคลอพริด แบบผงที่ หาซื้อได้ง่าย คุณภาพดีเยี่ยม คือ ยี่ห้อ โปรวาโด ของ ไบเออร์
ปกติ อิมิดาคลอพริด ใช้กำจัดเพลี้ยไฟ และ หนอนชอนใบได้ดีมาก ส่วนเพลี้ยอ่อน
เพลี้ยจักจั่น และ หนอนกินใบ อิมิดาคลอพริด ก็สามารถกำจัดได้ดีมากไม่แพ้กัน เลย นอกจากยี่ห้อ โปรวาโด ยังมี อิมิดาคลอพริด ยี่ห้ออื่นๆ เช่น สลิง เอ็กซ์
ยานี้ มี มีการออกฤทธิ์กว้าง ได้ผล ใน หนอน เพลี้ย เกือบทุกชนิด โดยมีอัตราการใช้ดังนี้
หนอนชอนใบ อิมิดาคลอพริด 1 กรัม ต่อ น้ำ 40 ลิตร
เพลี้ยไฟ อิมิดาคลอพริด 1 กรัม ต่อ น้ำ 20 ลิตร
เพลี้ยไก่แจ้ อิมิดาคลอพริด 1 กรัม ต่อ น้ำ 40 ลิตร
ยี่ห้อ สลิงเอ็กซ์ ก็ใช้ได้ ไม่ต่างจากโปรวาโด แต่ราคาถูกกว่า ร้อยละ 40
นอกจากนี้ อิมิดาคลอพริด ยังมีแบบน้ำอีกด้วย ได้แก่ยี่ห้อ ชาด้า
ชาด้า มีตัวยา อิมิดาคลอพริด 10% W/V
วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559
เจาะลึกยาฆ่าแมลง 2 อะบาเม็กติน
อะบาเม็กติน
อะบาเม็กติน มี หลายยี่ห้อ มี ชื่อการค้า ที่นิยม ว่า แจคเก็ต
สารสำคัญ : อะบาเม็กติน (abamectin) …………………………………………................1.8 % EC
คุณสมบัติ :
สารกำจัดแมลงประสิทธิภาพสูง อัตราใช้น้อย ออกฤทธิ์กำจัดแมลงทั้งแบบ สัมผัสตาย และยังสามารถดูดซึมเข้าสู่ใบพืชได้ (semi-systemic) สารจะออกฤทธิ์ทันทีหลังจากฉีดพ่นลงบนพืช สารส่วนหนึ่งจะแพร่กระจายไปบนผิวใบพืช เมื่อสัมผัสถูกแมลงศัตรูพืชจะออกฤทธิ์กำจัดทันที สารอีกส่วนหนึ่งจะถูกดูดซึมเคลื่อนย้ายเข้าไปภายในเนื้อเยื่อของใบพืช และสามารถออกฤทธิ์กำจัดแมลงที่มาดูดน้ำเลี้ยงหรือกัดกินใบพืชได้นานถึง 7-14 วัน จึงสามารถกำจัดแมลงศัตรู เช่น เพลี้ยไฟ หนอนชอนใบ หนอนม้วนใบได้ดีเยี่ยม
อะบาเม็กติน จะยับยั้ง ระบบประสาทของแมลง ทำให้แมลงเป็นอัมพาต และ ตายในที่สุด
อัตราและวิธีการใช้ :
เพลี้ยไฟ อัตรา 15-20 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นให้ทั่วเมื่อพบการระบาดของเพลี้ยไฟฝ้ายในระยะดอก
หนอนม้วนใบ อัตรา 7.5-10 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นให้ทั่วเมื่อพบการระบาด
หนอนชอนใบส้ม/หนอนปะกบใบส้ม อัตรา 20 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นเมื่อพบส้มเขียวหวานเริ่มแตกใบอ่อน หรือเมื่อพบการระบาด โดยพ่นทุก 5 วัน จำนวน 1-2 ครั้ง ขึ้นอยู่กับการระบาด
หนอนแมลงวันชอนใบ อัตรา 20 ซีซีต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นเมื่อพบการระบาดบนใบเกิน 10% โดยสุ่มนับแนวทะแยง 25-30 จุดต่อไร่บนใบคู่ที่ 3 นับจากยอด
คำค้น อะบาเม็กติน แจคเก็ต
วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559
เจาะลึกยาฆ่าแมลง 1 เซพวิน 85
เซพวิน 85
เป็น ยาฆ่าแมลง กลุ่ม คาร์บาเมท ซึ่งมี ชื่อสามัญว่า คาร์บาริล
ปัจจุบัน จัดจำหน่าย โดย บริษัทโซตัส
สารสำคัญ : คาร์บาริล (carbaryl) ……………………………………………..85% WP
สามารถกำจัดแมลงได้หลากหลายชนิดทั้งเพลี้ยไฟ เพลี้ยแป้ง เพลี้ยอ่อน เพลี้ยจักจั่นมะม่วง หนอนเจาะขั้ว และแมลงปีกแข็งต่างๆ แมลงใต้ดิน เช่น มด ปลวก ด้วงดิน มีความเป็นพิษต่ำมากต่อมนุษย์และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นก ปลา และไม่มีสารตกค้างหลงเหลือในสภาพแวดล้อม เหมาะสำหรับ พืชผัก ไม้ผล และไม้ดอกไม้ประดับทั่วไป
อัตราและวิธีการใช้ : ใช้อัตรา 30-50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
การใช้ใน ผีเสื้อมวนหวาน ต้นเหตุหนอนชอนใบ
สัปปะรด 1 ชิ้น หนา 1 นิ้ว แช่เซพวิน 85 นาน 1 ชั่วโมงแขวนไว้ ใกล้ต้นมะนาว ส้ม สามารถป้องกัน ผีเสื้อได้ 14-20 วัน
ปกติ ควรใช้ 40 กรัม ต่อ น้ำ 20 ลิตร
ข้อบ่งใช้ ยาเซพวิน 85 หรือ ควร์บาริล
- หนอนชอนใบ
- ผีเสื้อ
- เพลี้ยต่างๆ
- หนอนกินใบ
- มด
- ด้วง
- ปลวก
การใช้งานให้ปลอดภัย ต้องสวม ถุงมือ ขณะใช้ยาเซพวิน 85 และ อาบน้ำหลังใช้ยานี้
วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559
ชวนชาวสวนปลูกมะนาวแป้นรำไพ ทำเงินล้านกันดีกว่า
เหตุผลที่ แนะนำให้ปลูกมะนาวแป้นรำไพ
1 ขายง่าย ราคาดี ตลาดต้องการสูงมาก เวลาทำออกมา ก็สบายใจว่าขายได้แน่นอน โดยเฉพาะเดือน มีนาคม ถึง พฤษภาคม ของทุกปี ราคามะนาวจะแพงขึ้นมากกว่าปกติ ถึง 2 เท่าตัวเลย
2 ออกลูกดกมาก ทำนอกฤดูได้ง่าย โดยหากเราดูแลมะนาวแป้นรำไพ อย่างถูกวิธี หากปลูกลงดิน มะนาว 1 ต้น จะได้ผลผลิตสูงถึง 3000 ลูกเลยทีเดียว แต่หากปลูกในวงบ่อ จะได้มากสุดไม่เกิน 900 ลูก
แต่อย่างไรก็ตาม การปลูกลงดินต้นทุนต่ำกว่า และผลผลิตมากกว่าในวงบ่อ สองเท่าเลยทีเดียว
3 น้ำมาก กลิ่นหอม เปลือกบาง ทำให้สะดวกในการปรุงอาหาร ทำลาบ ส้มตำ พล่าเนื้อ ดีนักแล และนี่เองคือ จุดเด่นที่ทำให้ มะนาวแป้นรำไพ ขายดี เป็นที่ต้องการของตลาดมานานกว่า 30 ปี
4 ต้นทุนค่ากิ่งพันธุ์ไม่แพง ราคาจะอยู่ในช่วงกิ่งละ 30-80 บาท ซึ่งต่างจากพันธุ์ใหม่ที่โด่งดัง ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์แป้นวโรชา แป้นเกรียงไกร แป้นสุขประเสริฐ ล้วนมีราคากิ่งพันธุ์แพงมาก ราคา ตั้งแต่ 200-4000 บาท ต่อกิ่งเลยทีเดียว
ปัญหาที่พบบ่อย คือ โรคแคงเกอร์ ในมะนาวแป้นรำไพ ทางแก้คือ
1ใช้ กิ่งแป้นรำไพ ปลอดโรคแคงเกอร์ ที่มีการรับประกันคุณภาพ
2 ฆ่าเชื้อโรคทุกชนิด ที่ติดมากับกิ่งพันธุ์ โดยใช้ Super C ก่อนปลูก
3 พ่นยา Killer B เพื่อป้องกันโรคแคงเกอร์ ทุก 3 เดือน ในปีแรก
เส้นทางสร้างเงินล้านจากมะนาวแป้นรำไพภายใน 3 ปี
1 เตรียมพื้นที่ปลูกมะนาว 3 ไร่ โดย แปลงแรก 1 ไร่ ทำต้นแม่พันธุ์
2 ปลูกปอเทืองเพื่อปรับปรุงดิน แล้วไถกลบ ได้ปุ๋ยพืชสด
3 ยกร่องลูกฟูกสูง 60 เซนติเมตร ระยะ 5 คูณ 3 เมตร
4 เมือมะนาวแป้นรำไพ อายุครบ 6 เดือน ตอนกิ่งมะนาวไว้ ขยายพื้นที่ปลูกอีก 2 ไร่
5 ขาย กิ่งตอนแป้นรำไพปลอดแคงเกอร์ แบบรับประกันคุณภาพ
6 เมื่อมะนาวอายุ ครบ 1 ปี สามารถ ทำมะนาวนอกฤดูได้
7 ขายกิ่งตอนปลอดโรคเพื่อ เป็นรายได้ประจำวัน
8 ครบ 3 ปี มะนาวแป้นรำไพ 1 ต้น ให้ผล ขั้นต่ำ 2000 ลูกต่อต้น
3 ไร่ 300 ต้น รวมได้ 600000 ผล ขายส่งผลละ 2.5 บาท ได้เงินสุทธิ
รวม 1.5 ล้านบาท ไม่นับรวมรายได้เสริม จากกิ่งตอน
ดังนั้นปลูกแป้นรำไพ อย่างเดียว ทำกำไร ปีละ 1 ล้านได้แน่นอน
จำหน่ายกิ่งตอนแป้นรำไพรับประกันปลอดโรคแคงเกอร์
ราคากิ่งละ 55 บาท ค่า ส่ง 150 บาท สั่ง 50 กิ่งขึ้นไป ฟรีค่าส่ง
การรับประกันกิ่งแป้นรำไพ
หากพบกิ่งที่ซื้อไปเป็นโรคแคงเกอร์ เปลี่ยนใหม่ให้ฟรี
พร้อมให้ยารักษาฟรี กรณีมีการระบาดโรคแคงเกอร์ในสวน
********************************
ควรจองล่วงหน้า ประมาณ 30 -40 วัน
ติดต่อ เภสัชเอก 082-3074103 อีเมล newfrxbaby@gmail.com
LINE ID = supparuksuppaaim
วันอาทิตย์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559
สูตร ยาฆ่าแมลง ทั้ง 5 ที่ผม คัดสรรแล้ว ทดลองแล้ว ว่า สุโค่ย
สูตรต่างๆเหล่านี้ เกิดจากการเรียนรู้ จากสนามจริง ในพื้นที่สวนมะนาว จ.ขอนแก่น
ผม ขอฟันธง 5 ยาฆ่าแมลงที่ผมเลือกใช้ ในสวนมะนาวได้แก่
1 เซพวิน 85 หรือ ตัวยา คาร์บาริล
2 อิมิดาโคลพริดทั้ง แบบผง หรือ น้ำ
3 ฟิโพนิล ชนิดน้ำ
4 คาราเต้ หรือ ตัวยา (เข้าน้ำมัน)
5 แจคเก็ต หรือตัวยา อะบาแมกติน (เข้าน้ำมัน)
โดยปกติแล้ว ผมจะพ่นยา สูตร 1-4-8-15 โดยจะเริ่มแบบนี้ เริ่มจาก
วันแรก จะตัดแต่งกิ่ง ไป พร้อมๆ กับ การใส่ปุ๋ยโยกหน้าทางดิน
(ยาร่า 21-7-14) ที่มากกว่า ปกติ สัก 25% เพื่อเร่งการแตกใบอ่อน
เมื่อมะนาว แทงยอดอ่อน วันที่ 1 ผมจะใช้ ยาฆ่าแมลงก็คือ เซพวิน 85
หรือ ตัวยา คาร์บาริล นั่นเอง
นับไปอีก 3 วัน คือวันที่ 4 ผมจะใช้ อิมิดาโคลพริด ฉีดพ่น โดยในวันถัด
มา ผมจะให้ปุ๋ยโยกหน้า
ใช้ ทริปโตฟาจ + บีที เข้า มาเป็น กำลังเสริมครับ เพื่อลดการใช้ สารเคมี ลง
ผม ขอฟันธง 5 ยาฆ่าแมลงที่ผมเลือกใช้ ในสวนมะนาวได้แก่
1 เซพวิน 85 หรือ ตัวยา คาร์บาริล
3 ฟิโพนิล ชนิดน้ำ
4 คาราเต้ หรือ ตัวยา (เข้าน้ำมัน)
5 แจคเก็ต หรือตัวยา อะบาแมกติน (เข้าน้ำมัน)
โดยปกติแล้ว ผมจะพ่นยา สูตร 1-4-8-15 โดยจะเริ่มแบบนี้ เริ่มจาก
วันแรก จะตัดแต่งกิ่ง ไป พร้อมๆ กับ การใส่ปุ๋ยโยกหน้าทางดิน
(ยาร่า 21-7-14) ที่มากกว่า ปกติ สัก 25% เพื่อเร่งการแตกใบอ่อน
เมื่อมะนาว แทงยอดอ่อน วันที่ 1 ผมจะใช้ ยาฆ่าแมลงก็คือ เซพวิน 85
หรือ ตัวยา คาร์บาริล นั่นเอง
นับไปอีก 3 วัน คือวันที่ 4 ผมจะใช้ อิมิดาโคลพริด ฉีดพ่น โดยในวันถัด
มา ผมจะให้ปุ๋ยโยกหน้า
ทางใบ เช่น นกเงือกเขียว หรือ นูแทค ไฮเอ็น ฉีดพ่นเพื่อ บำรุงกิ่งใบ ให้
เจริญดี นับไปเรื่อยๆ จนถึง วันที่ 8 ผมจะใช้ยาฆ่าแมลงอีก โดยใช้ คาราเต้ โดย
พ่นตอนเย็น เพราะเป็นยา เข้าน้ำมันนั่นเอง โดยในวันที่ 15 ตอนเช้า ผมจะให้
ปุ๋ยทางใบโยกหน้าอีก 1 ครั้ง เพื่อเป็นการตัดปัญหา หนอน แมลง
กวนใจ ผมจะนับต่อ จน วัน ที่ 15 ผมจะฉีด ยาฆ่าแมลงเป็น ครั้งสุดท้าย ซึ่งก็คือ
อะบาแมกติน (เข้าน้ำมัน) นั่นเอง แต่อย่างไรก็ตาม หากในสวนมะนาว ไม่พบ
หนอนแมลงเลย หลังพ่นยาฆ่าแมลงวันที่ 8 ในวันที่ 15 การใช้ยา อะบาแมกติน ก็
อาจไม่จำเป็น ไม่ต้องพ่นยา ก็ได้ กรณีมี หนอนแมลงมาสอดแทรก ตอนนี้ผม
ใช้ ทริปโตฟาจ + บีที เข้า มาเป็น กำลังเสริมครับ เพื่อลดการใช้ สารเคมี ลง
อิมิดาโคลพริดน้ำ
การใช้ยาฆ่าแมลง ทั้ง 5 ตัว จะ ครอบคลุม หนอน แมลง เกือบทุกชนิด เลย สบายใจได้ ยกเว้น ไรแดง หรือ ไรสนิม หากพบ จะใช้ อามีทราช ปราบเลยครับ ปกติ สวนมะนาวผมมักไม่พบไรแดง เพราะผมให้ความชื้นแก่ใบมะนาว สัปดาห์ละ 2 ครั้ง
วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2559
การเปิดตาดอกมะนาว ให้สำเร็จ
ก่อนจะให้มะนาว ออกดอก 2 เดือน เราจะให้ปุ๋ยโยกหลัง ตรานกเงือกแดง
ทุก 7 วัน ใน เดือนแรก ให้ น้ำได้ ตามปกติ ส่วน เดือน 2 ให้งดให้น้ำเด็ดขาด
เมื่อมะนาว เมื่อใบเริ่มแก่ เราควรอดน้ำมะนาว อายุ ครบ 60 วัน เพื่อให้มะนาว
พร้อมออกดอก อดน้ำหลายวันจนไปเริ่มเหี่ยวนิดหน่อย หากมีฝนตกช่วงอดน้ำ
เราแก้ได้ เราแก้ได้โดยใช้ ปุ๋ยสูตร 0-52-34 โดยผสม 100 กรัม ต่อ น้ำ 20 ลิตร
ฉีดพ่น หรือ อาจใช้สูตร 0-0-60 แทนก็ได้ เช่นกัน
เมื่อหยุด ไนโตรเจน ไม่ขึ้นมากับน้ำฝน เราจะหยุดการแตกยอดได้
จนมะนาวแก่ และเริ่มขาดน้ำ เหี่ยว เราจะให้น้ำเต็มที่แก่มะนาว 2 วัน
วันที่่ 3 ให้น้ำ สัก 70% พอ แล้วให้ปุ๋ยเปิดตาดอก สูตร 13-0-46
โดยส่วนผสม 80 กรัม ต่อ น้ำ 20 ลิตร อีก 3 วันทำ แบบเดิม คือ
ให้ปุ๋ยเปิดตาดอก 13-0-46 อีกครั้ง ซึ่งก็ ปุ๋ยของ ชาลีเฟท ที่หาซื้อง่าย
โดยช่วงนี้ เราจะให้ปุ๋ยโยกหลังไปด้วยทุก 7 วัน ที่แนะนำคือ
ปุ๋ยนกเงือกแดง หรือ ปุ๋ยชาลีเฟทถุงทอง สูตร 10-20-30 ส่วนผสม
ปุ๋ย 70 กรัม ต่อ น้ำ 20 ลิตร ผสมสารจับใบด้วยเวลาฉีดพ่น
วันพุธที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2559
แนวทาง รับมือ กับน้ำท่วม สำหรับสวนมะนาว
ผมเชื่อว่า เจ้าของสวนมะนาวหลายคน คงรู้สึกไม่น้อยที่ปีนี้ฝนตกบ่อยมาก
หลายพื้นที่น้ำท่วม ผลผลิตเสียหาย ผมเองมีเทคนิครับมือน้ำท่วมมาฝาก
เราสามารถทำดังนี้
1 เตรียมแก้มลิง หรือ จุดรับน้ำไว้ ถ้าสามารถทำได้ จะช่วยทำให้เรามีจุดรับน้ำเวลาฝนตกหนัก หากน้ำท่วมแปลงมะนาว เราสามารถสูบน้ำมาพักไว้ที่นี่ได้ หากแก้มลิงลึมากพอ ยังใช้เปผ็นบ่อเก็บสำรองน้ำได้อีกด้วย นอกจากนี้ ยังใช้เลี้ยงปลา และปลูกพืชน้ำอีก คุ้มจริง ๆ
2 จัดหาเครื่องสูบน้ำ มาใช้ จริงๆ เมื่อมีน้ำท่วมขัง หากต้นไม้มีน้ำท่วมขัง รากต้นไม้จะขาดอากาศ หรือ ขาดอ็อกซิเจน การสูบน้ำออกโดยเร็ว เป็นการแก้ไขที่ตรงจุด เพราะเมื่อมีน้ำท่วมขัง รากมะนาวจะตาย ใบจะเริ่มเหลือง และร่วง จนในที่สุดต้นมะนาวจะตาย
3 ตัดแต่งกิ่งใบออก + พร้อมใส่ปุ๋ยบำรุงเต็มที่ การทำแบบนี้ ทำให้มะนาวมีอาหารสะสมมากขึ้น ทนการถูกน้ำท่วมได้ดีขึ้น ประกอบกับการตัดใบออกไปทิ้ง ลดภาระการใช้ อ็อกซิเจนของพืชลงอีกด้วย การทำแบบนี้ ทำให้ต้นมะนาวรอดตายได้มากขึ้น
4 เติมอากาศให้น้ำที่ท่วมขัง โดยใช้ระบบใบบัด หรือ แอร์ปั๊ม ทำให้ น้ำไหล กระเด็นมีฟอง จะช่วยได้ 50%
การป้องกันปัญหา กรณีน้ำท่วมซ้ำซาก
1 ยกร่องลูกฟูกมะนาวสูง 70 cm ขึ้นไป
2 กรณี ใช้วงบ่อควรทำสองชั้น
3 ทำแก้มลิงเก็บน้ำให้ลึกและใหญ่
หลายพื้นที่น้ำท่วม ผลผลิตเสียหาย ผมเองมีเทคนิครับมือน้ำท่วมมาฝาก
เราสามารถทำดังนี้
1 เตรียมแก้มลิง หรือ จุดรับน้ำไว้ ถ้าสามารถทำได้ จะช่วยทำให้เรามีจุดรับน้ำเวลาฝนตกหนัก หากน้ำท่วมแปลงมะนาว เราสามารถสูบน้ำมาพักไว้ที่นี่ได้ หากแก้มลิงลึมากพอ ยังใช้เปผ็นบ่อเก็บสำรองน้ำได้อีกด้วย นอกจากนี้ ยังใช้เลี้ยงปลา และปลูกพืชน้ำอีก คุ้มจริง ๆ
2 จัดหาเครื่องสูบน้ำ มาใช้ จริงๆ เมื่อมีน้ำท่วมขัง หากต้นไม้มีน้ำท่วมขัง รากต้นไม้จะขาดอากาศ หรือ ขาดอ็อกซิเจน การสูบน้ำออกโดยเร็ว เป็นการแก้ไขที่ตรงจุด เพราะเมื่อมีน้ำท่วมขัง รากมะนาวจะตาย ใบจะเริ่มเหลือง และร่วง จนในที่สุดต้นมะนาวจะตาย
3 ตัดแต่งกิ่งใบออก + พร้อมใส่ปุ๋ยบำรุงเต็มที่ การทำแบบนี้ ทำให้มะนาวมีอาหารสะสมมากขึ้น ทนการถูกน้ำท่วมได้ดีขึ้น ประกอบกับการตัดใบออกไปทิ้ง ลดภาระการใช้ อ็อกซิเจนของพืชลงอีกด้วย การทำแบบนี้ ทำให้ต้นมะนาวรอดตายได้มากขึ้น
4 เติมอากาศให้น้ำที่ท่วมขัง โดยใช้ระบบใบบัด หรือ แอร์ปั๊ม ทำให้ น้ำไหล กระเด็นมีฟอง จะช่วยได้ 50%
การป้องกันปัญหา กรณีน้ำท่วมซ้ำซาก
1 ยกร่องลูกฟูกมะนาวสูง 70 cm ขึ้นไป
2 กรณี ใช้วงบ่อควรทำสองชั้น
3 ทำแก้มลิงเก็บน้ำให้ลึกและใหญ่
วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2559
ปราบแคงเกอร์หน้าฝน ต้องเล่นของโหด ด้วย Super C ตาม ด้วยKiller B
หากเรา ไม่กำจัดโรคแคงเกอร์ให้ สิ้นซากก่อนเข้าฤดูฝน แล้ว ปัญหาจะตามมาทันที
เพราะ หากฝนตกเกือบทุกวัน ไม่ว่าคุณจะใช้ ฟังกูราน แคงเกอร์น็อค หรือ Killer B
ฝนจะชะล้าง ตัวยาออกจากใบมะนาว ตกลงสู่พื้นดิน ทันที ทำให้เชื้อโรคแคงเกอร์
สามารถเริงร่า อยู่ในกิ่ง ใบมะนาวของต้นได้ต่อไป แต่ตอนนี้ ผมเภสัชเอกมีทางแก้
นั่นคือ การใช้สารเคมี ใน ยาใหม่ มีชื่อว่า Super C ซุปเปอร์ซี ตัวยาละลายน้ำ แล้ว
ปลดปล่อย แก๊ส ออกมาฆ่าเชื้อโรคแคงเกอร์ ได้ อย่างรวดเร็วภายใน 30 นาที
หากพ้น 60 นาทีไปแล้ว มีฝนตกมา ก็ไม่ทำให้ ฤทธิ์เดชของ Super C ซุปเปอร์ซี นั้น
มันลดลงแต่อย่างใด หลังจากนั้น เราประเมินดูอาการโรคแคงเกอร์ 3 วัน หลังพ่น
ยา Super C ซุปเปอร์ซี หากอาการไม่สงบ พ่น Super C ซุปเปอร์ซี ซ้ำอีก 1 ครั้ง
อาการโรคสงบ คือ แผลแห้ง ไม่มี จุดเหลืองเพิ่ม หรือ รุกลาม ออกไป อีก ใบเกิดใหม่ไม่มีโรค
แต่ถ้าโรคแคงเกอร์สงบ ปิด Job ด้วยการพ่น Killer B 3-5 ครั้ง โดยแต่ละครั้ง
Killer B |
พ่น Killer B ห่างกัน 3 วัน แค่นี้ โรคแคงเกอร์ ในหน้าฝนก็หายไปแล้ว เยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
โดยเรา สามารถ ป้องกัน โรคแคงเกอร์ โดย พ่น Killer B ทุก 2 เดือน ได้
ท่านสามารถสั่งซื้อ ยา คู่ มังกรพยอง Killer B + Super C โดยราคาขายเป็นชุด
ชุดเล็ก 370 บาท ชุดกลาง 570 บาท
ชุดใหญ่ 870 บาท ชุดจัมโบ้ 1500 บาท
โดย ชุดเล็ก ในมะนาว ไม่เกิน 80 ต้น
ชุดกลาง มะนาว ไม่เกิน 180 ต้น
ฃุดใหญ่ มะนาวไม่เกิน 320 ต้น
ชุดจัมโบ้ มะนาวไม่เกิน 840 ต้น
ท่านสามารถสั่งซื้อ ยา คู่ มังกรพยอง Killer B + Super C โดยราคาขายเป็นชุด
ชุดเล็ก 370 บาท ชุดกลาง 570 บาท
ชุดใหญ่ 870 บาท ชุดจัมโบ้ 1500 บาท
โดย ชุดเล็ก ในมะนาว ไม่เกิน 80 ต้น
ชุดกลาง มะนาว ไม่เกิน 180 ต้น
ฃุดใหญ่ มะนาวไม่เกิน 320 ต้น
ชุดจัมโบ้ มะนาวไม่เกิน 840 ต้น
วันเสาร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2559
ปราบโรคแคงเกอร์หน้าฝน ทำไงเอาอยู่ กรณีใช้แบคทีเรีย
ตอนนี้ ผู้เขียนเองเลิกใช้ ทองแดง หรือ คอปเปอร์ ในการปราบโรคแคงเกอร์ แล้ว เพราะ ทองแดงเป็นโลหะหนักเกิดพิษสะสมได้ เลยหันมาใช้แบคทีเรียแทน โดยผู้เขียนใช้ Killer B ที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ขึ้นมาเอง หากผู้อ่นไม่สามารถหาซื้อ Killer B ได้แนะนำ ให้ใช้ บีเอส พลายแก้ว ของชมรมเกษตรปลอดสารพิษ สามารถรักษาโรคแคงเกอร์ได้เช่นกัน
ปกติ ถ้าฝนไม่ตก พ่น Killer B 4 หรือ 5 รอบ โรคแคงเกอร์ก็หายสนิทแล้ว แต่เมื่อฝนตก ฝนจะชะล้าง Killer B ออกจากใบและกิ่งมะนาว ลงสู่พื้นดิน แต่ผม ยัง ก็สามารถปราบโรคแคงเกอร์ให้หายได้ ในหน้าฝน โดย หากพ่น Killer B แล้ว ฝนตกลงมา ก็พ่น Killer B ซ้ำอีกครั้ง จากที่เคยหมัก Killer B นาน 2 วัน ผมก็หมัก Killer B นาน 5 วันไปเลย นอกจากนี้ การให้อากาศ กับ Killer B ด้วยการเขย่า วันละ 3 ครั้ง เป็นอย่างน้อย ผมก็ใช้ การเปิด เครื่องออกซิเจน ตู้ปลา โดยเปิดนานครั้งละ 5-10 นาที วันละ 3 ครั้ง
เป็นอย่างน้อย โดยเราจะหมัก Killer B ในภาชนะ ขนาด มากกว่า 5 ลิตร เพื่อ ป้องกันไม่ให้เกิดฟองของแลคตาซอย หมักกับ Killer B ต้องระวังฟองที่เกิดขึ้นด้วย กรณี หมัก Killer B นานหลายวัน เราสามารถเพิ่ม แลคตาซอย และน้ำตาลได้ เพื่อที่ให้มั่นใจว่า แบคทีเรีย Killer B มีอาหารมากพอ และมีอากาศมากพอ โดยเราจะใช้การเกิด เครื่องออกซิเจน ตู้ปลาช่วยนั่นเอง การที่ เรานั้น หมัก Killer B นานกว่า 5 วัน และใช้ เครื่องออกซิเจน ตู้ปลา จะทำให้ ประสิทธิภาพ การรักษาโรคแคงเกอร์เพิ่ม ขึ้นกว่า 10 เท่า และ เป็น วิธี ที่รับรองผลว่า เราจะสามารถรักษาโรคแคงเกอร์ได้หายขาดแน่นอน
โดยใช้เทคนิค 3 ข้อ
1. ฝนตกลงมา ก็พ่น Killer B ซ้ำอีกครั้ง
2. หมัก Killer B นานอย่างน้อย 5 วัน
3. เปิด ใช้เครื่องออกซิเจน ตู้ปลาวันละ 3 ครั้ง
วันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2559
การป้องกันโรครากเน่าโคนเน่า
โรคนี้เกิดจากเชื้อราหลายชนิด โรครากเน่าโคนเน่า พบในมะนาว ส้ม มะกรูด และพืชอีกหลายชนิด
สาเหตุสำคัญของโรคนี้คือดินมีเชื้อราที่ก่อโรครากเน่า บวกกับกดินอาจมีความชื้นสูงทำให้เชื้อรามากขึ้น
วิธีป้องกันโรครากเน่าโคนเน่าที่ผู้เขียนรับรองมี 4 ขั้นตอนซึ่งก็คือ
- คลุกดิน หรือวัสดุปลูกด้วยเชื้อ Killer B โดยมีการให้ซ้ำทุก 6 เดือน กรณีไม่มีเขื้อ Killer B แนะนำให้ใช้ ยาเมทาแล็กซิล 50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร ราดดิน หรือ วัสดุปลูกให้ชุ่ม โดยให้ทำทุก 3 เดือน
- จุ่มรากมะนาวในเชื้อไตรโครเดอร์ม่าให้ทั่วทุกราก ในจุ่มนาน อย่างน้อย 5 นาที ก่อนนำมะนาวไปปลูก
- ปลูกมะนาว ส้ม แบบยกร่องสูงอย่างน้อย 50 เซนติเมตร วิธีนี้ จะทำให้น้ำไม่ท่วมขัง ดินไม่แฉะ
- ปรับความเป็นกรดด่างของดินทุก 3 เดือนให้อยู่ในช่วง 5.5-7.0 วิธีนี้จะทำให้พืชแข็งแรงและโตเร็ว
การนำวิธีป้องกันโรครากเน่าโคนเน่า ทั้ง 4 ขั้นตอนไปใช้รับรองว่า มะนาว มะกรูดของท่านจะไม่เป็นโรครากเน่าโคนเน่าโดยเด็ดขาด เลยรับรองได้ ครับ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)