วันอังคารที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2558

การปลูกมะนาวใหม่



1 ควรปลูก ตอนเย็น และ มีน้ำรดมะนาวตลอด 14 วันแรก

เลือกมะนาวในถุงดำที่อนุบาลไว้อย่างน้อย 14 วัน

ให้ จุ่มรากมะนาว ด้วยไตรโครเดอร์ม่า หรือ แบคทีเรีย คิลเลอร์บี

ก่อนปลูกเสมอ  เพราะช่วยป้องกันโรครากเน่า โคนเน่าได้


2 เตรียมไม้ปักพยุงต้นมะนาว ยาวสัก 50  cm


3 แกะมะนาว จากถุงดำ  นำมาวางในหลุมปลูก

โดยมีดินดีๆ รองไว้แล้ว สัก 25 cm ปลูกระดับ 10-15 cm



4 รองก้นหลุ่มด้วย ปุ๋ยละลายช้า และ สตาร์เกิ้ลจี

อย่างละ 1-2 ช้อนชา ต่อมะนาว 1 ต้น



5 รดน้ำ ทุกวัน จนมะนาวเริ่มแตกยอดใหม่


6 เมื่อมะนาว แตกยอดใหม่ ใช้สารกำจัดแมลงสูตรคุมยอด 1-4-8

วันที่ 1 ใช้ Cypermethrin 35% 15 cc ต่อน้ำ 20 ลิตร  +สารจับใบ
วันที่ 4 ใช้ โปรวาโด้  2 กรัม  ผสมน้ำ 20 ลิตร +สารจับใบ แล้วพ่น
วันที่ 8 ใช้ เซพวิน   40 กรัม  ผสมน้ำ 20 ลิตร  +สารจับใบ แล้วพ่น

*พ่นแบคทีเรีย คิลเลอร์บี  1 ครั้ง พอมะนาวครบ 14 วัน



7 พ่นปุ๋ยทางใบ สูตรโยกหน้าทุก 14 วัน
ใน 2 เดือนแรก

8 พอมะนาว ครบ 2  เดือน ให้น้ำ วันเว้นวัน

9 และ ใช้ปุ๋ยยาร่า สูตร 21-7-14   หรือ ใส่ปุ๋ยทางดิน 15-15-15+ยูเรีย+0-0-60 ตามขนาดทรงพุ่ม ทุก 2 เดือน

*พ่นใบแบคทีเรีย คิลเลอร์บี  1 ครั้ง+ ราดดิน   พอมะนาวครบ 3 เดือน

10 ปรับ pH ดิน 6.0-7.0 ทุก 4 เดือน


หากดินเป็นกรด มาก ให้ ทยอย ใส่ ปูนขาว ทุก  7 วัน ปรับจนได้   pH ดิน 6.0-7.0

แล้วติดตามวัด  pH  ทุก 4 เดือน
* ตัดแต่งกิ่ง ตามสูตร รศ.ดร.รวี เมื่อมะนาวครบ 4 เดือน

วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2558

เชื้อ BS บาซิลัส ปราบแคงเกอร์ ทดสอบแล้ว ได้ผลลัพธ์ยอดเยี่ยม

เชื้อ BS บาซิลัส ปราบแคงเกอร์


โรคแคงเกอร์ กวนใจ ชาวสวนมะนาว มะกรูด มาก เพราะ โรคแคงเกอร์ นั้น ทำลายใบ

ทำลายกิ่ง  และ ทำลายผล มะกรูด มะนาว ให้เสียหายมาก  และรักษายาก เป็นแล้ว

เป็นอีก  ทำให้เกษตรกร ต้องใช้ยากลุ่ม คอปเปอร์ และ สเตรปโตมัยซิน บ่อยๆ ซึ่งมีข้อเสีย

ได้แก่

1  คอปเปอร์ คือ ทองแดง พ่นบ่อยๆ เกิดพิษสะสม ของทองแดง ส่งผลเสีย ต่อระบบนิเวศมากมาย

2 สเตรปโตมัยซิน เป็น ยาปฏิชีวนะ ใช้ในการรักษาโรควัณโรค ใน คน การใช้ ยา สเตรปโตมัยซิน

ในสวนมะนาว จะส่งผลทำให้ เชื้อวัณโรค ในมนุษย์ดื้อยา ตัวนี้ได้ โดยเฉพาะการใช้ในแปลงปลูก

3 คอปเปอร์ และ สเตรปโตมัยซิน มีราคาแพง ต้องพ่นบ่อยๆ จึงจะควบคุมโรคแคงเกอร์ได้

ทางออก ในการคุมโรคแคงเกอร์ แบบปลอดสารพิษ คือ การใช้ น้ำนมหมักเชื้อ BS

เชื้อ BS คือ เชื้อ บาซิลลัส ซับทิลิส ที่กำจัดแบคทีเรีย ก่อโรคแคงเกอร์ได้ดีมากๆ

และ เชื้อ BS ยังสามารถ กำจัดเชื้อรา ไฟท็อปเทอร่า ที่ก่อโรครากเน่า โคนเน่าได้ดีอีกด้วย

ดังนั้น การใช้ เชื้อ BS จึงสามารถควบคุมได้ ทั้งโรคแคงเกอร์ และ โรครากเน่า โคนเน่า

การเตรียมนมหมัก เชื้อ BS Bacillus Subtilis 
ส่วนผสม
·      หัวเชื้อแบคทีเรีย บาซิลลัส ซับทิลิส (Bacillus subtilis)  ชนิดผง 1 ช้อนชา
·      นม UHT รสหวาน 1 กล่อง 250 ml
·      นมแลตาซอย 1 กล่อง 250 ml
·      น้ำตาลกลูโคส หรือ น้ำตาลทราย 3 ช้อนชา

การเตรียม

      ผสมให้เข้ากันในขวดน้ำอัดลมพลาสติก ขนาด 1.25 ลิตร หมักไว้ในห้องที่มีอากาศร้อน (อย่าปิดฝาแน่น)  แต่ไม่ให้โดนแสงแดด  เก็บไว้นาน 48-60 ชั่วโมง จึงนำมาใช้ได้  พยายาม อย่าให้มดขึ้นด้วย  เวลาใช้ นำน้ำยาที่ได้ 150 ml ไป ผสมน้ำ 20 ลิตร และ ผสมสารจับใบด้วย ในการพ่นใบมะนาว มะกรูด ส้ม ที่เป็นโรคแคงเกอร์ ควรพ่นตอนเย็นจะได้ผลดีกว่า

การใช้งานน้ำนมหมัก เชื้อ BS

น้ำนมหมัก เชื้อ BS  150 cc ผสม น้ำปลอดคลอรีน 20 ลิตร และ สารจับใบ 25 cc
ฉีดพ่นให้ทั่วใบ กิ่งมะนาว  และ พื้นดิน ใต้ต้นมะนาวให้ทั่ว ในการพ่่น น้ำนมหมักเชื้อ BS
ให้พ่น 3 ครั้ง ก่อน โดย สูตร 1  4  8  แล้ว ต่อมาให้พ่น น้ำนมหมัก เชื้อ BS เดือนละ 1 ครั้ง
จนโรคแคงเกอร์หายไป จากสวนมะนาว มะกรูด