วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2558

การเตรียมหลุมปลูกมะนาวลงดิน

ในการปลูกมะนาวลงดิน ควรไถดินให้เป็นลูกฟูก สูงจากพื้น ราว ๆ 50-80 cm

เพื่อป้องกันน้ำขัง และโรครากเน่าโคนเน่า  โดยการยกลูกฟูก จะบังคับมะนาว

ให้อดน้ำ ขาดน้ำได้ดีกว่าปลูกลงดินธรรมดา ทำให้ออกดอกได้ง่ายกว่าเดิม

โดยควรมีการเพิ่มปุ๋ยพืชสดในดิน เพื่อปรับปรุงดิน ผมแนะนำให้ปลูกปอเทือง

รอจนออกดอก แล้วไถกลบ ทำให้ดิน มีอินทรีย์ว้ตถุเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว

นอกจากนี้ ปอเทืองยังให้ไนโตรเจนในดินได้ อีกด้วย น่ะครับ หากปลูกปอเทือง

2 รอบ ก่อนปลูกมะนาว ภายใน 2 ปี แรก ไม่ใส่ปุ๋ยคอก ให้มะนาว ก็ยังได้ครับ



การขุดหลุม ควร กว้าง 50 cm ลึก  40 cm หลังจากนั้น

ตากหลุมให้โดนแดด สัก 7 วัน เพื่อฆ่าเชื้อโรค ให้รอง ก้นหลุม

ด้วยทรายหยาบ แกลบดิบ  แกลบเผา และ  ปุ๋ยคอกเก่า (กรณีไม่มีปอเทือง)

โดยผสมดินรองก้นหลุมสัก  28 cm ปรับ pH ดินที่ 6.0-7.0 


อีก 12 cm เอาไว้ปลูกมะนาวครับ  หากจะป้องกันโรครากเน่า ควรโรยด้วย

หัวเชื้อหยาบของ ไตรโคเดอร์ม่าก่อนปลูก ครับผมโดยใส่ 2 ช้อนช้า

แล้วราดน้ำให้พอเปียก อาจใช้ หัวเชื้อหยาบ คลุกผสมกับกินปลูกได้



วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2558

การอนุบาลมะนาวกิ่งตอนก่อนปลูก

เมื่อได้กิ่งตอนมะนาวมาล้าง ทำความสะอาด ตัดแต่งกิ่ง ใบที่เสียหาย หรือ มากเกินออก

หากกิ่งมีโรคแคงเกอร์ให้ ตัดใบ+ กิ่ง ที่เป็นโรคทิ้ง แล้วแช่  Super C ( 1 ซอง ต่อ น้ำ 100 ลิตร)



นาน 30-45  นาทีก่อนเพื่อ ฆ่าเชื้อโรคที่ติดมากับกิ่งพันธุ์

หลังจากนั้น ล้างน้ำเปล่าให้สะอาด เต็มที่

ต่อมา นำกิ่งตอน  แช่กิ่งใน น้ำผสมเชื้อ BS   หรือ Killer B นาน 30 นาที โดยแช่ให้กิ่งตอนจมมิดน้ำ

 ทั้งกิ่ง นำมาชำลงถุงดำ โดยใฃ้ดินผสม หรือ แกลบเผา+ ทรายหยาบ+ขุยมะพร้าว  ไว้ในร่ม แดดพอรำไร

โดยอนุบาลไว้สัก 14 -21 วันกำลังดี โดยควรรดน้ำแต่น้อย ทุกๆ วัน พอชื้น อย่าได้ขาด



อาจควบคุมโรคแคงเกอร์ และ รากเน่าโคนเน่า โดยใช้เชื้อแบคทีเรีย BS หรือ Killer B 

รดมะนาว ทุก 5 วัน สามารถใช้ สตาร์เกิ้ลจี โรย ในถุงดำ 1-2 ช้อนชา เพื่อป้องกันหนอนเพลี๊ยะ

ใส่ในถุงดำ เลย



และ อาจใส่ปุ๋ย ออสโม้โค้ท 13-13-13 1 ช้อนชาเพื่อให้ ธาตุอาหารต่างๆ

วัสดุปลูกที่ใช้ ในถุงดำที่ดี ควรเป็นทรายหยาบ แกลบดำ  และ ขุยมะพร้าว

ในสัดส่วน  4:   1:   1 โดย แกลบดำ ควรล้างแช่น้ำสัก 1-2 คืนก่อนใช้



เป้าหมายในการอนุบาลมะนาวคือ

1 เพื่อ ให้รากมะนาวเดินดีเต็มที่

2 เพื่อ กำจัดควบคุมโรคแคงเกอร์และกิ่งที่ไม่จำเป็น


การใช้ Killer B

ประโยชน์
ป้องกัน และ รักษาโรคแคงเกอร์ + โรครากเน่าโคนเน่า

รักษา แคงเกอร์ รากเน่า โคนเน่า
สินค้า Killer B

การใช้งาน
1 Killer B 1ซองเล็ก
2 ผสม แลคตาซอย 500 มิลลิลิตร + น้ำตาล 5 ช้อนชา
3 เติมน้ำ 200 มิลลิลิตร
4 ผสมให้เข้ากันในภาชนะ ขนาด 1,500-10,000 มิลลิลิตร
(ขนาดยิ่งใหญ่ ยิ่งดี )
5 เขย่า หรือ คนให้เข้ากันวันละ 4 ครั้ง
หรือ เปิด ออกซิเจน นานวันละ 60 นาที
6 ตั้งทิ้งไว้ นานอย่างน้อย  3- 5 วัน แต่ไม่เกิน 10 วัน

*** อาจเกิดฟอง แก๊ส กลิ่น หรือ การแยกชั้น ของนมได้***

การผสมเพื่อใช้งาน
Killer B ที่หมักแล้ว จำนวน 100 ถึง 200 มิลลิลิตร ผสม น้ำ 20 ลิตร
และ น้ำยาล้างจาน 20 มิลลิลิตร 
ฉีดพ่นให้ทั่วทุกใบ หรือ ดินรอบๆ โคนต้น+ ทรงพุ่ม





 

วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2558

รากเน่า โคนเน่า อันตรายที่สุด ของมะนาว

มะนาว เมื่อ รากเน่า โคนเน่า แล้ว หากไม่รีบรักษา ต้นมะนาวตายแน่นอน
ดังนั้น เราต้องป้องกันไม่ให้มะนาวเกิด รากเน่า โคนเน่า สาเหตุก็คือ

1 ความชื้นสูง
2 หลุมปลูกลึกเกินไป
3 รากมะนาว ขาด O2
4 ดินกรด หรือ ด่างเกินไป
5 เชื้อราบางชนิด



อาการของมะนาวรากเน่า คือ ใบจะเหลือง หรือ ใบเหี่ยวจากยอดก่อน ต่อมาใบจะร่วง

กิ่งมะนาวก็ จะค่อยๆ แห้งตาย ตาม ต่อมา ต้นมะนาว ก็จะตาย

การป้องกันโรครากเน่า

1 ปลูกมะนาวในดินร่วน ดินทราย การระบายน้ำต้องดี เมื่อไม่มีน้ำขังรากก็ได้ Oxygen เพียงพอ

2 ยกร่องให้สูง อย่างน้อย 50 cm หากเป็นที่ลุ่ม ต้องยกร่องสูง 90 cm เพื่อไม่ให้น้ำขัง น้ำมาก

เชื้อราเติบโตดี เชื้อราไฟทอปเทอร์ร่า ทำลาย รากมะนาวได้ดีมาก

3 เชื้อแบคทีเรีย บาซิลลัส ซับทิลิส กำจัด ป้องกันเชื้อราได้ดี ควรใส่เชื้อลงในดิน

4 อย่าขุดหลุมลึก  เพราะรากมะนาวลึก น้ำจะขังง่าย ขาด Oxygen ง่ายรากก็ตายได้

ขุดหลุมปลูกมะนาว สัก 30-40 cm ใส่ดินสัก 15-20 cm เอามะนาวปลูกที่ความลึก 15 cm พอ

5 ยาเมทาแล็กซิล ใส่ดิน ตอนปลูกมะนาว  และใส่เพิ่มปีละ 1 -2 ครั้ง ขึ้นกับความชื้นในดิน

6 รดน้ำเท่าที่จำเป็น ปกติ มะนาว รดน้ำทุก 3 วัน ยกเว้น ช่วงก่อนออกดอก ต้องงดน้ำ

ช่วงมะนาวออกดอก  หรือ ปลูกใหม่ๆ ต้องให้น้ำน้อยๆ แต่ให้ทุกวัน


7 ปรับ pH ดินให้ได้ 6.0 -7.0 โดยตรวจสอบ pH ดินปีละ 2 ครั้ง