ในการปลูกมะนาวลงดิน ควรไถดินให้เป็นลูกฟูก สูงจากพื้น ราว ๆ 50-80 cm
เพื่อป้องกันน้ำขัง และโรครากเน่าโคนเน่า โดยการยกลูกฟูก จะบังคับมะนาว
ให้อดน้ำ ขาดน้ำได้ดีกว่าปลูกลงดินธรรมดา ทำให้ออกดอกได้ง่ายกว่าเดิม
โดยควรมีการเพิ่มปุ๋ยพืชสดในดิน เพื่อปรับปรุงดิน ผมแนะนำให้ปลูกปอเทือง
รอจนออกดอก แล้วไถกลบ ทำให้ดิน มีอินทรีย์ว้ตถุเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
นอกจากนี้ ปอเทืองยังให้ไนโตรเจนในดินได้ อีกด้วย น่ะครับ หากปลูกปอเทือง
2 รอบ ก่อนปลูกมะนาว ภายใน 2 ปี แรก ไม่ใส่ปุ๋ยคอก ให้มะนาว ก็ยังได้ครับ
การขุดหลุม ควร กว้าง 50 cm ลึก 40 cm หลังจากนั้น
ตากหลุมให้โดนแดด สัก 7 วัน เพื่อฆ่าเชื้อโรค ให้รอง ก้นหลุม
ด้วยทรายหยาบ แกลบดิบ แกลบเผา และ ปุ๋ยคอกเก่า (กรณีไม่มีปอเทือง)
โดยผสมดินรองก้นหลุมสัก 28 cm ปรับ pH ดินที่ 6.0-7.0
อีก 12 cm เอาไว้ปลูกมะนาวครับ หากจะป้องกันโรครากเน่า ควรโรยด้วย
หัวเชื้อหยาบของ ไตรโคเดอร์ม่าก่อนปลูก ครับผมโดยใส่ 2 ช้อนช้า
แล้วราดน้ำให้พอเปียก อาจใช้ หัวเชื้อหยาบ คลุกผสมกับกินปลูกได้
เริ่มต้นธุรกิจเงินล้าน กับ การเป็นเกษตรกร สวนมะนาว สาระความรู้ ประสบการณ์ การปลูกมะนาว รีวิว ปุ๋ย ยาปราบศัตรพืช หนังสือที่เกี่ยวข้อง กับ มะนาว
วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2558
วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2558
การอนุบาลมะนาวกิ่งตอนก่อนปลูก
เมื่อได้กิ่งตอนมะนาวมาล้าง ทำความสะอาด ตัดแต่งกิ่ง ใบที่เสียหาย หรือ มากเกินออก
หากกิ่งมีโรคแคงเกอร์ให้ ตัดใบ+ กิ่ง ที่เป็นโรคทิ้ง แล้วแช่ Super C ( 1 ซอง ต่อ น้ำ 100 ลิตร)
นาน 30-45 นาทีก่อนเพื่อ ฆ่าเชื้อโรคที่ติดมากับกิ่งพันธุ์
หลังจากนั้น ล้างน้ำเปล่าให้สะอาด เต็มที่
ต่อมา นำกิ่งตอน แช่กิ่งใน น้ำผสมเชื้อ BS หรือ Killer B นาน 30 นาที โดยแช่ให้กิ่งตอนจมมิดน้ำ
ทั้งกิ่ง นำมาชำลงถุงดำ โดยใฃ้ดินผสม หรือ แกลบเผา+ ทรายหยาบ+ขุยมะพร้าว ไว้ในร่ม แดดพอรำไร
โดยอนุบาลไว้สัก 14 -21 วันกำลังดี โดยควรรดน้ำแต่น้อย ทุกๆ วัน พอชื้น อย่าได้ขาด
อาจควบคุมโรคแคงเกอร์ และ รากเน่าโคนเน่า โดยใช้เชื้อแบคทีเรีย BS หรือ Killer B
รดมะนาว ทุก 5 วัน สามารถใช้ สตาร์เกิ้ลจี โรย ในถุงดำ 1-2 ช้อนชา เพื่อป้องกันหนอนเพลี๊ยะ
ใส่ในถุงดำ เลย
และ อาจใส่ปุ๋ย ออสโม้โค้ท 13-13-13 1 ช้อนชาเพื่อให้ ธาตุอาหารต่างๆ
วัสดุปลูกที่ใช้ ในถุงดำที่ดี ควรเป็นทรายหยาบ แกลบดำ และ ขุยมะพร้าว
ในสัดส่วน 4: 1: 1 โดย แกลบดำ ควรล้างแช่น้ำสัก 1-2 คืนก่อนใช้
เป้าหมายในการอนุบาลมะนาวคือ
1 เพื่อ ให้รากมะนาวเดินดีเต็มที่
2 เพื่อ กำจัดควบคุมโรคแคงเกอร์และกิ่งที่ไม่จำเป็น
การใช้ Killer B
ประโยชน์
ป้องกัน และ รักษาโรคแคงเกอร์ + โรครากเน่าโคนเน่า
การใช้งาน
หากกิ่งมีโรคแคงเกอร์ให้ ตัดใบ+ กิ่ง ที่เป็นโรคทิ้ง แล้วแช่ Super C ( 1 ซอง ต่อ น้ำ 100 ลิตร)
นาน 30-45 นาทีก่อนเพื่อ ฆ่าเชื้อโรคที่ติดมากับกิ่งพันธุ์
หลังจากนั้น ล้างน้ำเปล่าให้สะอาด เต็มที่
ต่อมา นำกิ่งตอน แช่กิ่งใน น้ำผสมเชื้อ BS หรือ Killer B นาน 30 นาที โดยแช่ให้กิ่งตอนจมมิดน้ำ
ทั้งกิ่ง นำมาชำลงถุงดำ โดยใฃ้ดินผสม หรือ แกลบเผา+ ทรายหยาบ+ขุยมะพร้าว ไว้ในร่ม แดดพอรำไร
โดยอนุบาลไว้สัก 14 -21 วันกำลังดี โดยควรรดน้ำแต่น้อย ทุกๆ วัน พอชื้น อย่าได้ขาด
อาจควบคุมโรคแคงเกอร์ และ รากเน่าโคนเน่า โดยใช้เชื้อแบคทีเรีย BS หรือ Killer B
รดมะนาว ทุก 5 วัน สามารถใช้ สตาร์เกิ้ลจี โรย ในถุงดำ 1-2 ช้อนชา เพื่อป้องกันหนอนเพลี๊ยะ
ใส่ในถุงดำ เลย
และ อาจใส่ปุ๋ย ออสโม้โค้ท 13-13-13 1 ช้อนชาเพื่อให้ ธาตุอาหารต่างๆ
วัสดุปลูกที่ใช้ ในถุงดำที่ดี ควรเป็นทรายหยาบ แกลบดำ และ ขุยมะพร้าว
ในสัดส่วน 4: 1: 1 โดย แกลบดำ ควรล้างแช่น้ำสัก 1-2 คืนก่อนใช้
เป้าหมายในการอนุบาลมะนาวคือ
1 เพื่อ ให้รากมะนาวเดินดีเต็มที่
2 เพื่อ กำจัดควบคุมโรคแคงเกอร์และกิ่งที่ไม่จำเป็น
การใช้ Killer B
ประโยชน์
ป้องกัน และ รักษาโรคแคงเกอร์ + โรครากเน่าโคนเน่า
สินค้า Killer B |
การใช้งาน
1 Killer B 1ซองเล็ก
2 ผสม แลคตาซอย 500 มิลลิลิตร + น้ำตาล 5 ช้อนชา
3 เติมน้ำ 200 มิลลิลิตร
4 ผสมให้เข้ากันในภาชนะ ขนาด 1,500-10,000 มิลลิลิตร
(ขนาดยิ่งใหญ่ ยิ่งดี )
5 เขย่า หรือ คนให้เข้ากันวันละ 4 ครั้ง
หรือ เปิด ออกซิเจน นานวันละ 60 นาที
6 ตั้งทิ้งไว้ นานอย่างน้อย 3- 5 วัน แต่ไม่เกิน 10 วัน
*** อาจเกิดฟอง แก๊ส กลิ่น หรือ การแยกชั้น ของนมได้***
การผสมเพื่อใช้งาน
Killer B ที่หมักแล้ว จำนวน 100 ถึง 200 มิลลิลิตร ผสม น้ำ 20 ลิตร
และ น้ำยาล้างจาน 20 มิลลิลิตร
ฉีดพ่นให้ทั่วทุกใบ หรือ ดินรอบๆ โคนต้น+ ทรงพุ่ม
วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2558
รากเน่า โคนเน่า อันตรายที่สุด ของมะนาว
มะนาว เมื่อ รากเน่า โคนเน่า แล้ว หากไม่รีบรักษา ต้นมะนาวตายแน่นอน
ดังนั้น เราต้องป้องกันไม่ให้มะนาวเกิด รากเน่า โคนเน่า สาเหตุก็คือ
1 ความชื้นสูง
2 หลุมปลูกลึกเกินไป
3 รากมะนาว ขาด O2
4 ดินกรด หรือ ด่างเกินไป
5 เชื้อราบางชนิด
อาการของมะนาวรากเน่า คือ ใบจะเหลือง หรือ ใบเหี่ยวจากยอดก่อน ต่อมาใบจะร่วง
กิ่งมะนาวก็ จะค่อยๆ แห้งตาย ตาม ต่อมา ต้นมะนาว ก็จะตาย
การป้องกันโรครากเน่า
1 ปลูกมะนาวในดินร่วน ดินทราย การระบายน้ำต้องดี เมื่อไม่มีน้ำขังรากก็ได้ Oxygen เพียงพอ
2 ยกร่องให้สูง อย่างน้อย 50 cm หากเป็นที่ลุ่ม ต้องยกร่องสูง 90 cm เพื่อไม่ให้น้ำขัง น้ำมาก
เชื้อราเติบโตดี เชื้อราไฟทอปเทอร์ร่า ทำลาย รากมะนาวได้ดีมาก
3 เชื้อแบคทีเรีย บาซิลลัส ซับทิลิส กำจัด ป้องกันเชื้อราได้ดี ควรใส่เชื้อลงในดิน
4 อย่าขุดหลุมลึก เพราะรากมะนาวลึก น้ำจะขังง่าย ขาด Oxygen ง่ายรากก็ตายได้
ขุดหลุมปลูกมะนาว สัก 30-40 cm ใส่ดินสัก 15-20 cm เอามะนาวปลูกที่ความลึก 15 cm พอ
5 ยาเมทาแล็กซิล ใส่ดิน ตอนปลูกมะนาว และใส่เพิ่มปีละ 1 -2 ครั้ง ขึ้นกับความชื้นในดิน
6 รดน้ำเท่าที่จำเป็น ปกติ มะนาว รดน้ำทุก 3 วัน ยกเว้น ช่วงก่อนออกดอก ต้องงดน้ำ
ช่วงมะนาวออกดอก หรือ ปลูกใหม่ๆ ต้องให้น้ำน้อยๆ แต่ให้ทุกวัน
7 ปรับ pH ดินให้ได้ 6.0 -7.0 โดยตรวจสอบ pH ดินปีละ 2 ครั้ง
ดังนั้น เราต้องป้องกันไม่ให้มะนาวเกิด รากเน่า โคนเน่า สาเหตุก็คือ
1 ความชื้นสูง
2 หลุมปลูกลึกเกินไป
3 รากมะนาว ขาด O2
4 ดินกรด หรือ ด่างเกินไป
5 เชื้อราบางชนิด
อาการของมะนาวรากเน่า คือ ใบจะเหลือง หรือ ใบเหี่ยวจากยอดก่อน ต่อมาใบจะร่วง
กิ่งมะนาวก็ จะค่อยๆ แห้งตาย ตาม ต่อมา ต้นมะนาว ก็จะตาย
การป้องกันโรครากเน่า
1 ปลูกมะนาวในดินร่วน ดินทราย การระบายน้ำต้องดี เมื่อไม่มีน้ำขังรากก็ได้ Oxygen เพียงพอ
2 ยกร่องให้สูง อย่างน้อย 50 cm หากเป็นที่ลุ่ม ต้องยกร่องสูง 90 cm เพื่อไม่ให้น้ำขัง น้ำมาก
เชื้อราเติบโตดี เชื้อราไฟทอปเทอร์ร่า ทำลาย รากมะนาวได้ดีมาก
3 เชื้อแบคทีเรีย บาซิลลัส ซับทิลิส กำจัด ป้องกันเชื้อราได้ดี ควรใส่เชื้อลงในดิน
4 อย่าขุดหลุมลึก เพราะรากมะนาวลึก น้ำจะขังง่าย ขาด Oxygen ง่ายรากก็ตายได้
ขุดหลุมปลูกมะนาว สัก 30-40 cm ใส่ดินสัก 15-20 cm เอามะนาวปลูกที่ความลึก 15 cm พอ
5 ยาเมทาแล็กซิล ใส่ดิน ตอนปลูกมะนาว และใส่เพิ่มปีละ 1 -2 ครั้ง ขึ้นกับความชื้นในดิน
6 รดน้ำเท่าที่จำเป็น ปกติ มะนาว รดน้ำทุก 3 วัน ยกเว้น ช่วงก่อนออกดอก ต้องงดน้ำ
ช่วงมะนาวออกดอก หรือ ปลูกใหม่ๆ ต้องให้น้ำน้อยๆ แต่ให้ทุกวัน
7 ปรับ pH ดินให้ได้ 6.0 -7.0 โดยตรวจสอบ pH ดินปีละ 2 ครั้ง
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)